ฟุตบอลวาไรตี้>>ลิเวอร์พูล VS เลสเตอร์ 3-1 : หงส์อัดจิ้งจอก นำฝูงต่อทิ้ง 7 แต้ม

ลิเวอร์พูล VS เลสเตอร์ : ผลบอล 3-1 | “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พลาดท่าโดน เลสเตอร์ ยิงนำก่อนจาก จอร์แดน อายิ; ตั้งแต่นาทีที่ 6 แต่หลังจากนั้น ลิเวอร์พูล รัวคืน 3 ลูกรวดจาก โคดี้ กัคโป, เคอร์ติส โจนส์ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ พลิกกลับมาแซงชนะ 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 42 แต้มจาก 17 นัด ครองจ่าฝูงทิ้งห่างอันดับสอง เชลซี ออกไปเป็น 7 แต้ม แถมยังแข่งน้อยกว่า 1 นัด

ฟุตบอลวาไรตี้>>ลิเวอร์พูล 3-1 เลสเตอร์

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2024/25
ลิเวอร์พูล 3-1 เลสเตอร์

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก 2024/25 เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 26 ธันวาคม 2567 “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟิลด์ พบกับ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้

นาทีที่ 4 ลิเวอร์พูลได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ โคดี้ กัคโป เปิดบอลจากฝั่งซ้ายไปให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ กระโดดยิงที่เสาสอง ติดเซฟ ยาคุบ สโตลาร์ซิค นายทวารเลสเตอร์

GOAL!! ต่อมานาทีที่ 6 เลสเตอร์ได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ สเตฟี่ มาวิดิดี้ ผ่านบอลเรียดจากซ้ายเข้ากลางให้ จอร์แดน อายิว พลิกหนี แอนดี้ โรเบิร์ตสัน แล้วสับไกด้วยขวา บอลไปแฉลบเท้า ฟาน ไดจ์ค นิดนึง ก่อนจะพุ่งเข้าประตูไปเป็นสกอร์นำ 1-0 ของทีมเยือน

หลังจากเสียประตู ลิเวอร์พูลเร่งเครื่องบุกเข้าใส่ต่อเนื่องทันที และเกือบได้ประตูตีเสมอในนาทีที่ 25 เมื่อ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ เปิดบอลให้ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน โหม่งบอลไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

นาที 45 ทีมหงส์แดงได้โอกาสทองอีกครั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปั่นด้วยซ้ายในเขตโทษ บอลพุ่งไปชนคานออกหลังไป

GOAL!! ช่วงทดเวลาครึ่งแรก นาที 45+1 ลิเวอร์พูลตามตีเสมอจนได้เมื่อ โคดี้ กัคโป ได้บอลทางฝั่งซ้าย ก่อนจะโยกแตะเข้าใน แล้วบรรจงปั่นด้วยขวาเน้นๆ บอลพุ่งเสียบมุมเข้าไปอย่างเฉียบขาด ทำให้จบครึ่งแรกด้วยสกอร์เสมอกัน 1-1

GOAL!! กลับมาลงสนามครึ่งหลัง นาที 49 ลิเวอร์พูลแซงนำ 2-1 จากจังหวะที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ จ่ายเรียดจากขวามาให้ เคอร์ติส โจนส์ ยิงจ่อๆ เข้าตุงตาข่าย

นาที 62 โม ซาลาห์ จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ ดาร์วิน นูนเญซ วิ่งสอดเข้ามาตวัดยิงตามน้ำ แต่ติดเซฟผู้รักษาประตูของเลสเตอร์

นาที 68 ทีมหงส์แดงเกือบได้ประตูที่ 3 เมื่อ ซาลาห์ จ่ายบอลจากขวาเข้ากลาง กองหลังเลสเตอร์สกัดไม่ขาด บอลมาเข้าทาง โคดี้ กัคโป วิ่งมาซัดจ่อๆ ไม่เหลือ แต่ก่อนหน้านั้นมีผู้เล่นลิเวอร์พูลล้ำหน้าก่อน จึงชวดได้ประตูอย่างน่าเสียดาย

GOAL!! นาที 82 ลิเวอร์พูลมาได้ประตูปิดกล่องจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลากบอลเข้าเขตโทษด้านขวา ก่อนจะปั่นด้วยซ้ายส่งบอลพุ่งเสียบเสาไกลเข้าไป จบเกม ลิเวอร์พูล ต้อน เลสเตอร์ 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 42 แต้มจาก 17 นัด ครองจ่าฝูงต่อไป พร้อมกับทำคะแนนทิ้งห่างอันดับสอง เชลซี ออกไปเป็น 7 แต้ม แถมแข่งน้อยกว่า 1 นัด ส่วน เลสเตอร์ รั้งอันดับ 18 ลงสนาม 18 นัด มีอยู่แค่ 14 แต้มเท่าเดิม

ฟุตบอลวาไรตี้>>รายชื่อผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม

ลิเวอร์พูล : อลีสซง เบ็คเกอร์ (GK), เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดี้ โรเบิร์ตสัน, ไรอัน กราเฟนแบร์ค, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, เคอร์ติส โจนส์, โคดี้ กัคโป, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ

เลสเตอร์ ซิตี้ : ยาคุบ สโตลาร์ซิค (GK), เจมส์ จัสติน, คอเนอร์ โคอาดี้, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น, บูบาการี่ ซูมาเร่, แฮร์รี่ วิงค์ส, บิลาล เอล คานนูส, สเตฟี มาวิดิดี้, จอร์แดน อายิว, แพ็ตสัน ดาก้า

#พรีเมียร์ลีก #ยูฟ่า #แมนยู #แมนยูฯ #ข่าวกีฬา #ซาร่า #ฟอเรสต์ #หลุยดิอาร์ท #เรอัลมาดริด #เทรนต์อเล็กซานเดอร์อาร์โนลด์ #โมซาลาห์ #เฟอร์จิลฟานไดค์ #วิเตสลาฟยารอส #ลิเวอร์พูล #แอนโธนีกอร์ดอน #แกรีเนวิลล์ #ลิเวอร์พูล #เชลซี #แมนเชสเตอร์ซิตี้ #สเปอร์ส #แอสตันวิลล่า #ฟูแล่ม #บอร์นมัธ #อาร์เซน่อล #ฟุตบอลวาไรตี้ #วิเคราะห์บอล #ทีเด็ดบอลเต็ง